- ประเมินมูลค่าหุ้นด้วย DCF: เขาทำกันอย่างไร? - FINNOMENA
- คำนวณให้เห็นกันไป ทำไมดอกเบี้ยขึ้นแล้วหุ้นกู้ราคาลง – TIF | Thailand Investment Forum
- มูลค่าตามทฤษฎีของหุ้น: มันคืออะไร คำนวณอย่างไร และลงทุนอย่างคุ้มค่า | การเงินเศรษฐกิจ
- วิธีคํานวณ หุ้น
จากบทความก่อนนหน้าที่เราได้ประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี Constant-Growth Model และวิธี Variable-Growth Model
ซึ่งมีข้อจำกัดว่าบริษัทต้องจ่ายปันผล และต้องจ่ายปันผลสม่ำเสมอด้วย สามารถอ่านทบทวนกันอีกรอบได้ที่นี่ การประเมินมูลค่าหุ้นง่าย ๆ
แล้วหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล จะคำนวณมูลค่าอย่างไร?
ประเมินมูลค่าหุ้นด้วย DCF: เขาทำกันอย่างไร? - FINNOMENA
2, ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เท่ากับ 3% และผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยของตลาดหุ้นเท่ากับ 12% เราจะคำนวณอัตราคิดลดได้ดังนี้ ช่วงที่ 1 จะคำนวณ ke, kd และ WACC ได้ดังนี้ Ke = Rf + B (Rm – Rf) = 0. 03 + 1. 2*(0. 12 – 0. 03) = 13. 80% Kd = อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ * (1-T) = 0. 04 * (1 – 0. 2) = 3. 2% WACC = 0. 6 * 0. 138 + 0. 4 * 0. 032 = 9. 56% ช่วงที่ 2 ถ้าสมมุติว่าบริษัทลดสัดส่วนของหนี้ระยะยาวลงเป็น 35% จะคำนวณ ke, kd และ WACC ได้ดังนี้ Ke = Rf + B (Rm – Rf) = 0. 0*(0. 12-0. 03) = 12. 00% Kd = อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ * (1-T) = 0. 04 * (1-0. 65 * 0. 12 + 0. 35 * 0. 032 = 8. 92% และสามารถคิดลดกระแสเงินสดอิสระได้ดังนี้ นั่นคือบริษัทมีมูลค่าของกระแสเงินสดอิสระที่สร้างตลอดอายุกิจการคือ 24, 317 ล้านบาท แต่กระแสเงินสดนี้ต้องนำไปชำระหนี้ก่อนจึงจะเหลือเป็นมูลค่าของบริษัทคือ 24317 – 2800 +350 = 21, 867 ล้านบาท โดย 350 ล้านบาท คือ เงินสดที่บริษัทมีเพราะว่าเงินสดสามารถนำไปชำระหนี้ได้จึงบวกกลับ ถ้าบริษัทมีจำนวนหุ้นจดทะเบียน 1000 ล้านหุ้น ดังนั้นมูลค่าที่เหมาะสมต่อหุ้นจะอยู่ที่ 21. 867 บาท อย่างไรก็ดี การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่เนื่องจากตัวเลขที่นำมาใช้บางส่วนเป็นค่าประมาณทำให้ มีโอกาสที่มูลค่าที่ประเมินได้จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้ง่ายหากประมาณสูงหรือต่ำเกินไป และการเปลี่ยนตัวแปรบางตัวก็ทำให้มูลค่ากิจการเปลี่ยนไปอย่างมาก เช่น ถ้าสมมติให้เปลี่ยนอัตราการเติบโตของกระแสเงินสดในช่วงที่ 2 เป็น 4% จาก 3% มูลค่ากิจการที่ประเมินได้จะอยู่ที่ 28, 235 ล้านบาท ซึ่งต่างจากมูลค่าเดิมที่ 24, 317 อยู่ 3, 918 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 16.
000. 000 / 100. 000 = $1, 5
สิ่งนี้บอกเราว่ามูลค่าตามบัญชีตามทฤษฎีของหุ้นคือ 1 ดอลลาร์ โปรดจำไว้ว่าหากมูลค่านี้สูงกว่าในตลาดหุ้น ถือเป็นการซื้อที่ไม่ดี แต่ถ้าต่ำกว่านี้ แสดงว่าเป็นการซื้อที่ดี กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากในตลาดซื้อขายหุ้นที่ราคา $0 ด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจมาก งานคือการค้นหาว่าสิ่งนี้เป็นเหตุบังเอิญอันเนื่องมาจากวิกฤตในภาคธุรกิจหรืออย่างอื่น หรือหากบริษัทได้รับผลกระทบจริงๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ตลาดได้ลดราคาลงแล้ว
การลงทุนที่คุ้มค่า
สุดท้ายนี้ เราจะมาแสดงความคิดเห็นกันเล็กน้อยว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคืออะไร หรือที่เรียกว่า การลงทุนที่คุ้มค่า. เป็นปรัชญาการลงทุนที่มีผู้ติดตามที่สำคัญมากและได้รับความนิยมจาก วอร์เรนบัฟเฟท และครูของเขา เบนจามินเกรแฮม.
คำนวณให้เห็นกันไป ทำไมดอกเบี้ยขึ้นแล้วหุ้นกู้ราคาลง – TIF | Thailand Investment Forum
0000 บาทพอดีเด๊ะเช่นกัน
ทีนี้ สมมติเราซื้อมาตอนเช้าที่ดอกเบี้ย 3% แต่ตกบ่าย อัตราดอกเบี้ยในตลาดเกิดพุ่งขึ้นเป็น 4. 50% อัตราคิดลด (ซึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยในตลาด) ก็พุ่่งขึ้นเช่นกัน ผลที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้นกู้จะเป็นดังนี้
เท่ากับว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นทันทีทันใด จาก 3. 00% เป็น 4. 50% ราคาหุ้นกู้จะร่วงลงจาก 1, 000 บาท เหลือ 958. 76 บาท หรือ 4. 1% นั่นก็เพราะว่า เจ้าอัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในเป็นตัวหารนั้นจะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ เทอมของก้อนกระแสเงินสด ทำให้ราคาหุ้นกู้ร่วงลง.. ทั้งนี้ต้องอธิบายเพิ่มว่า โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นขนาด 1. 50% (จริง ๆ ต้องเรียกว่า เพิ่มขึ้น 150 basis point ซึ่งเป็นหน่วยที่ถูกต้องของอัตราดอกเบี้ย) มีน้อย ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไร แปลว่าภาวะตลาดผันผวนสูงขนาดวิกฤติกันเลยทีเดียว เพราะขนาดแบงก์ชาติเอง เวลาจะปรับเพิ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ยังขยับทีละ 0. 25% (25 basis point) เท่านั้น และปรับทุก 8 สัปดาห์ (ถ้าจำเป็นต้องมีการปรับ)
ในทางกลับกัน ถ้าอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลงเป็น 1. 50% ในวันเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้นกู้ ก็จะเป็นดังนี้
เท่ากับว่า หากอัตราดอกเบี้ยลดลงทันทีทันใด จาก 3.
"นี่แหละ ความท้าทายของตลาดหุ้น" เพราะ
1. ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่า ปีหน้า บริษัทจะกำไรเท่าไหร่... เอาตรงๆ เจ้าของยังไม่กล้าฟันธงเลย... ไอ้ที่เจ้าของรู้ก่อน ก็แค่ช่วงปิดงบ ก่อนจะส่งข้อมูลให้ตลาด ไม่กี่เดือนแค่นั้นแหละ
อย่างวิกฤตโควิท ยิ่งประเมินยากเข้าไปอีก... ปิดเมือง สรุปนานเท่าไหร่ กำไรหายเท่าไหร่... เดากันมันส์ล่ะ!! 2. ไม่มีใครรู้หรอกว่า จริงๆ ตลาด ในปีหน้าจะเทรดกันที่เท่าไหร่... ถ้าเงินมันฝืดมาก อาจเทรดกันต่ำ... อย่างปีนี้ เราเห็นบางหุ้นเทรดกันที่ P/E ไม่ถึง 10 เท่าเยอะแยะ
2. "คำนวณจากต้นทุนของเจ้าของ"... บางปี ธุรกิจอาจขาดทุน จนไม่มีกำไรเลย... คราวนี้เราจะคำนวณราคาหุ้นจากกำไรต่อหุ้นไม่ได้ละ
ต้องเปลี่ยนมาคำนวณ จากต้นทุนเจ้าของแทน... ดูที่ Book Value
ในตลาดปกติ หุ้นจะเทรดกันที่ 2-5 เท่า ของ Book
ในตลาดวิกฤต หุ้นจะเทรดกันที่ 1-3 เท่า ของ Book
แต่บางธุรกิจ อาจเทรดกันแพง เกินค่าเฉลี่ย ก็อาจเพราะ "นักลงทุนอยากซื้อ ก็ยอมซื้อแพงกันไปเรื่อยๆ" แต่เวลาหุ้น มันเทรดกันแพง มันก็เหมือน "เผือกร้อน" ใครถือคนสุดท้าย ก็ซวยสุดนั่นเองครับ
วิธีที่ 2 ก็คำนวณเหมือนแบบแรกนั่นแหละ คือ
1. ประเมินราคา Book Value ในปีหน้า... "กำไร หัก เงินปันผล ที่เหลือ มันก็มาเพิ่มใน Book นั่นแหละ"
2.
มูลค่าตามทฤษฎีของหุ้น: มันคืออะไร คำนวณอย่างไร และลงทุนอย่างคุ้มค่า | การเงินเศรษฐกิจ
00% เป็น 1. 50% ราคาหุ้นกู้จะเพิ่มจาก 1, 000 บาท เป็น 1, 043. 66 บาท หรือ 4.
การประเมินมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินต่าง ๆ อาจสูงหรือต่ำกว่าราคาตลาดที่ทรัพย์สินนั้นซื้อขายได้จริง
2. ความสามารถการทำกำไรในอนาคตและการเติบโตของบริษัทไม่ได้สะท้อนอยู่ใน Book Value
ลองทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้กันดูนะครับ
ด้วยรัก ^^
วิธีคํานวณ หุ้น
- สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด - คำนวณเงินปันผล
- เจริญ นํา โชค อ พาร์ ท เม้น ท์
- “ฮ้อข้าวต้มปลา” หอมหวน รัญจวนใจ ไร้ชูรส
- วิธีคํานวณ หุ้น
- แบบ ภ ง ด 3 | แบบ ภงด 3 ก
- โหลดเกมส์ Nioh: Complete Edition v1.21 - เว็บโหลดเกม PC ฟรี อัพเดทใหม่ล่าสุด | โหลดไฟล์เดียวจบ
- ความ หมายเลข 164
- โซฟา ส ปา โก้
- Only you แปล ไทย voathai.com
- กลอน ภาษา ไทย